Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การเลือกโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษในวัยประถม

Posted By Plook TCAS | 18 ส.ค. 66
687 Views

  Favorite

          พ่อแม่ที่มีลูกเป็น “เด็กพิเศษ” หรือ “เด็กที่มีความต้องการพิเศษ” จำเป็นต้องรู้และเข้าใจก่อนว่า ลูกน้อยของเราเขาต้องการความช่วยเหลือที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของความบกพร่องหรือข้อจำกัดทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ประสาทสัมผัส อารมณ์ และสังคม ซึ่งพ่อแม่ในฐานะผู้ที่ใกล้ชิดลูกมากที่สุด จำเป็นต้องพัฒนาความรู้และทักษะในการดูแลที่เฉพาะเจาะจง รวมทั้งต้องการการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรเทาความเครียด สามารถเผชิญและจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เอื้อต่อการตอบสนองความต้องการของลูกได้อย่างเหมาะสม และตัวช่วยที่สำคัญที่สุดคือ “โรงเรียน” แล้วเราจะเลือกโรงเรียนให้ลูกอย่างไรดี วันนี้มีคำตอบมาฝากค่ะ

          ลูกเราเป็นเด็กพิเศษและยังเล็กอยู่ บางอย่างลูกบอกเราได้ บางอย่างบอกไม่ได้ เราจึงต้องใช้ความสังเกตในการดูแลลูกเป็นพิเศษ เราต้องเรียนรู้ว่าลูกต้องการการเติมเต็มในความเป็นเด็กพิเศษในด้านใดบ้าง เช่น ทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา พฤติกรรมและอารมณ์ สังคม การสื่อสาร การพัฒนาการเรียนรู้ การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และความสามารถพึ่งพาตนเองตามวัยได้มากน้อยเพียงไร หรือลูกเป็นเด็กปัญญาเลิศ ฯลฯ  

          การเลือกโรงเรียนให้ลูกซึ่งเป็นเด็กพิเศษในวัยประถมเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลและตรวจสอบโรงเรียนต่าง ๆ เนื่องจากมีผลในการพัฒนาทางการศึกษาและการเตรียมความพร้อมในชีวิตให้ลูก เราต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนถึงความต้องการและความพิเศษของลูก เพื่อหาความเหมาะสมให้ลูกในการเติบโตและพัฒนาได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่เราต้องทำเพื่อประกอบการพิจารณาคือ

 

หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหาทางเลือกที่สอดคล้องกับศักยภาพของลูก

          การพูดคุยกับผู้ปกครองที่มีลูกหลานเป็นเด็กพิเศษ หรือผู้ปกครองที่ให้ลูกหลานเด็กพิเศษเข้าเรียนในโรงเรียนนั้นแล้ว จะทำให้เราได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเด็กพิเศษแบบลูกของเรา และโรงเรียนที่จะเลือกให้ลูก หรือหาข้อมูลจากหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับคำแนะนำเกี่ยวกับโรงเรียนใกล้บ้านเรา ที่เหมาะสมสำหรับความต้องการของลูก หรือค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตก็ได้ เพื่อเลือกโรงเรียนที่มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานกับเด็กพิเศษ และครูที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ซึ่งมีผลต่อคุณภาพการศึกษาของลูก ช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะและศักยภาพอย่างเต็มตัวได้

 

ศึกษาลักษณะเด่นของโรงเรียนที่สอดคล้องกับความต้องการของลูก

          โรงเรียนที่มีศักยภาพและประสบการณ์สูง ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษวัยประถมเช่นลูกของเรา จะมีลักษณะการดำเนินงานเด่น ที่ควรค่าแก่การสนใจและการพิจารณาเลือกเป็นอย่างยิ่งคือ โรงเรียนจะประเมินความต้องการและความสามารถของเด็กในการเรียนรู้ เพื่อให้การสนับสนุนที่เหมาะสม โดยอาจใช้เครื่องมือทางการแพทย์หรือแบบสอบถามพิเศษเพิ่มเติม ที่จะช่วยให้ทราบถึงความต้องการของเด็ก เช่น การเรียนรู้ทางภาษา ความสามารถทางสังคม หรือความต้องการพิเศษเพิ่มเติมด้านอื่น ๆ มีการออกแบบสร้างและพัฒนาแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็กพิเศษเป็นการเฉพาะ มีบุคลากร ครู หรือนักจัดการพฤติกรรมศึกษา เพื่อให้การสนับสนุนที่เหมาะสมสำหรับเด็ก รวมถึงการใช้เทคโนโลยีช่วยการเรียนรู้ เพื่อช่วยให้เด็กพิเศษเรียนรู้และเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายขึ้น มีการใช้แอปพลิเคชันการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็ก และใช้อุปกรณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมเช่นหนังสือเรียนพิเศษ หรือวัสดุการสอนที่สื่อสารและส่งเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับเด็กพิเศษ โรงเรียนจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้สำหรับเด็กพิเศษ มีการติดตามและประเมินผลการเรียนรู้ของเด็กเป็นระยะ เพื่อให้มีการปรับปรุงที่สัมฤทธิ์ผลยิ่งขึ้น รวมทั้งโรงเรียนมีการสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อให้การสนับสนุนที่เป็นไปตามความต้องการของเด็กพิเศษ

 

ชวนลูกไปเยี่ยมชมโรงเรียนเป้าหมาย

          เมื่อเราเลือกโรงเรียนเป้าหมายได้แล้วสัก 2-3 แห่ง ชวนลูกน้อยไปเยี่ยมชมโรงเรียนเพื่อให้ได้เห็นสภาพจริง ดูความพอใจของลูกเกี่ยวกับโรงเรียนและสิ่งที่พบเห็นในโรงเรียนขณะเยี่ยมชม พูดคุยกับครูหรือบุคลากรของโรงเรียน เพื่อศึกษาข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องการบริหาร รูปแบบการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตรการเรียน สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ กิจกรรมทั้งในและนอกโรงเรียน บริการสนับสนุน โปรแกรมเสริมสร้างทักษะสำหรับเด็กพิเศษ รวมทั้งบุคลากรของโรงเรียน ทั้งนี้เราเองก็ต้องมีการประเมินได้ด้วยตัวเองถึงระดับความสามารถ สติปัญญา และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกด้วย รวมทั้งมีการพูดคุยกับลูก เพื่อลูกจะได้สบายใจ ปรับตัว ปรับอารมณ์ ไม่เครียดในเรื่องการไปโรงเรียน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมจากที่บ้านไปสู่ที่โรงเรียนเมื่อถึงเวลาเปิดเทอม และมีความสุขความสนุกจากการเข้าเรียนในโรงเรียน

 

พิจารณาความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียน

          ค่าใช้จ่ายในโรงเรียนของรัฐย่อมสบายกับเงินในกระเป๋าของเรามากกว่าโรงเรียนเอกชน เพราะค่าใช้จ่ายหลักเกี่ยวกับการเรียน รัฐเป็นผู้รับผิดชอบทุกรายการ  หากเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ค่าใช้จ่ายก็ย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา เราจึงต้องดูความพร้อมทางการเงินของครอบครัว รายได้และรายจ่าย โดยเฉพาะหากเราเป็นครอบครัวที่มีลูกหลายคน และมีสมาชิกอื่นในครอบครัวให้ต้องดูแลอีกหลายคน รวมทั้งค่าใช้จ่ายและตัวบุคคลในการส่ง-รับลูก โดยต้องดูว่าโรงเรียนที่เราเลือกอยู่ใกล้บ้าน หรือใกล้สถานที่ที่สะดวกต่อการเดินทางของเราและลูกหรือเปล่า หรือหากโรงเรียนอยู่ไกลบ้าน เราจะเดินทางกันไปอย่างไร

          เราต้องมีความเชื่อมั่นอย่างจริงใจ ในความสามารถของลูกที่เป็นเด็กพิเศษว่าจะต้องพัฒนาได้ โดยเราและสมาชิกทุกคนในครอบครัวช่วยส่งเสริมและสร้างสังคมที่ดีให้กับลูกได้ มีทัศนคติที่ดีที่ให้ลูกมีการเรียนร่วมกับเด็กกลุ่มอื่น สร้างขวัญและกำลังใจให้ลูกของเราเข้มแข็ง เพื่อให้การพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ของลูกสัมฤทธิ์ผลด้วยดี

 

ณัณท์

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow